การเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์เป็นเคล็ดลับในการขึ้นนำคู่แข่งในการค้นหาแบบออร์แกนิค SEO (search engine optimization)
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นผู้นำทีมการตลาดหรือการขาย คุณจะรู้ดีว่าการเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างหรือทำลายยอดขายและรายได้ของคุณ แน่นอนเรากำลังจะเข้าสู่ปี 2022 เพื่อเป็นการปรับปรุงเนื้อหาในเว็บไซต์ให้เเข็งแกร่ง มาดูว่า 9 แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ SEO ปี 2022 มีอะไรบ้าง
9 แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด SEO ปี2022
1.ปรับปรุงพัฒนาเนื้อหาตามการวิจัยคำหลัก (Keyword)
2.เขียนชื่อและหัวเรื่องที่มีประสิทธิภาพ
3.เขียนคำอธิบาย Meta ให้ยอดเยี่ยม
4.ปรับขนาดภาพทั้งหมดให้เหมาะสม
5.เพิ่มจำนวนลิงค์ภายในเว็บ
6.ออกแบบให้ใช้งานง่าย (ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ)
7.ปรับความเร็วเว็บให้เหมาะสม
8.ใช้ประโยชน์จากการนำทาง Navigation และแผนผังเว็บไซต์
9.พึ่งพา HTML
จากการวิจัยล่าสุดของ HubSpot พบว่า 75% ของผู้ใช้ไม่เลื่อนผ่านหน้าแรกที่แสดงผลเลยคนส่วนใหญ่ที่ค้นหาทางออนไลน์จะพบสิ่งที่ต้องการในทันที เมื่อใดที่เว็บไซต์ของคุณไม่มีอันดับบนการค้นหา
แนวโน้มลูกค้าจะพบธุรกิจของคุณนั้นก็เป็นไปได้ยาก หากคุณต้องการเพิ่มการเข้าชมไซต์ของคุณและดึงดูดลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) เป็นวิธีสำคัญ แต่ในยุคที่เนื้อหามีล้นมากมายขนาดนี้เราจะเเยกธุรกิจออกจากเว็บไซต์อื่นๆ ได้อย่างไรกันบ้าง
- ปรับปรุงพัฒนาเนื้อหาตามการวิจัยคำหลัก (Keyword)
เขียนเนื้อหาตามการวิเคราะห์จากคำหลัก หรือวิเคราะห์ถึงคำรองแล้วเขียนแยกเนื้อหาออกไปต่อในบทความย่อยๆ ออกไป
โครงสร้างเนื้อหา
- คำหลักควรใช้เป็นหัวเรื่องที่สำคัญ
- คำรองควรใช้ในหัวข้อย่อยในบทความ
- คำพูดเนื้อหาทั่วไปใช้เสริมในบทความได้
เมื่อคุณปรับปรุงเนื้อหาที่มีคำหลักในบทความแล้ว เผยแพร่ต่อสาธารณะ ควรทำการเชื่อมโยงไปยังคำรองในหน้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเนื้อหาในหน้าคำหลักนี้ด้วย ถ้าคุณพยายามใส่ทั้งคำหลักและคำรองในบทความเรื่องเดียวนี้มากไปจะทำให้เกิดความอึดอัดในเนื้อหาทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ ทางทีดีควรวิเคราะห์คำรองที่มีปริมาณการค้นหาที่มากเพียงพอแล้วสร้างเนื้อหาใหม่แล้วแยกหน้าย่อยออกไปอีก จะทำให้เนื้อหาดูดึงดูดมากยิ่งขึ้น
2.เขียนชื่อและหัวเรื่องที่มีประสิทธิภาพ
ชื่อหัวเรื่องจะเป็นองค์กรประกอบในส่วนของ ในเอกสาร HTML ซึ่งทำหน้าที่เก็บข้อมูล Meta ของหน้าเว็บนั้นๆ ในแต่ละหน้า
และชื่อหัวเรื่องจพปรากฎในผลลัพธ์ในเครื่องมือการค้นหาด้วย

ชื่อหัวเรื่องที่มีโครงสร้างดีจัช่วยให้ รวมคำหลักที่คุณพยายามจัดอันดับ และ ทำให้คนอยากคลิกหรืออ่านเนื้อหา
ชื่อหัวเรื่องดีเป็นส่วนสำคัญของการทำ SEO คววรเป็นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา
Kevin Church ผู้อำนวยการ SEO ของเราอธิบายว่า:
“เมื่อคุณเขียนแท็กชื่อและหัวเรื่อง ให้คิดว่าคุณจะทำให้ผู้ใช้รู้ว่าพวกเขาได้อะไรจากบทความแน่ชัดได้อย่างไรคนชอบดูจะมีข้อมูลเชิงลึก ตัวอย่างเช่น การใช้ ‘9 วิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการเข้าชมตลาดขาเข้าของคุณ’ เนื่องจากชื่อของคุณดีกว่า ‘เพิ่มการเข้าชมในปัจจุบัน’ คุณต้องคิดถึงบางสิ่งที่จะทำให้ผู้ใช้หยุดและต้องการอ่านเนื้อหาของคุณ แต่ยังใช้คำหลักเพื่อให้ Google เข้าใจว่าบทความของคุณเกี่ยวกับอะไร” เสิร์ชเอ็นจิ้นชอบจัดอันดับเนื้อหาคุณภาพสูงที่ครอบคลุมหัวข้อได้ดีเพราะกำลังมองหาแหล่งข้อมูลที่ครบวงจร
3.เขียนคำอธิบาย Meta ให้ยอดเยี่ยม
Meta tag กลุ่มข้อความที่จะแสดงขึ้นหลังจากชื่อหัวเรื่องเนื้อหาใน SERPs คุณต้องนึกถึงสิ่งที่คุณมองหาในฐานะผู้ใช้ คำอธิบายใดที่จะทำให้คุณคลิกลิงก์เพื่ออ่านเพิ่มเติม Meta tag ไม่ได้ใช้ในอัลกอริธึมการจัดอันดับการค้นหา แต่ Meta tag มีหน้าที่ช่วยดึงดูดให้คนลิกเข้ามามากขึ้น

4.ปรับขนาดภาพทั้งหมดให้เหมาะสม
คุณต้องแน่ใจว่าหน้าเว็บของคุณโหลดได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะได้ปรับรูปภาพทั้งหมดในเว็บให้มีความเหมาะสมต่อการแสดงผลหรืออาจจะลองใช้Google Lighthouseเพื่อสแกนไซต์ของคุณและค้นหารูปภาพที่อาจทำให้ช้าลง
เนื่องจาก Google พิจารณาถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ในอัลกอริธึมการจัดอันดับการค้นหา และหากหน้าเว็บของคุณโหลดช้าอาจจะทำให้หน้าเว็บคู่เเข่งที่โหลดเร็วกว่าแสดงผลลัพธ์ขึ้นมาแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนมือถือจะเน้นหน้าที่โหลดเร็วถูกดึงขึ้นมาแสดงก่อน
เคล็ดลับ : นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพของคุณสำหรับขนาดแล้ว ให้ใช้แท็ก alt และคำอธิบายรูปภาพในหน้าเพื่อช่วยในการค้นหาทั่วไป
5.เพิ่มจำนวนลิงค์ภายในเว็บ
คุณต้องเชื่อมโยงทุกเมื่อตามความเหมาะสม ภายในเว็บบไซต์เพื่อให้ Google มองถึงความเชื่อมโยงกันในแต่หน้า
เชื่อมโยงไปยังบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความที่คุณกำลังเขียน เชื่อมโยงอย่างตั้งใจ
Google ไม่ได้ระบุว่าจะรวมลิงก์ภายนอกหรือภายในกี่ลิงก์ แต่โดยหลักการแล้ว ให้อิงตามความยาวของเนื้อหา สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแน่ใจว่าลิงก์ภายในของคุณมีความเกี่ยวข้อง ไม่มีการจำกัดจำนวน แต่ถ้าคุณเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องจำนวนมาก มันจะเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อ่านและทำให้เครื่องมือค้นหาสับสน
6.ออกแบบให้ใช้งานง่าย (ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ)
Google ต้องการให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเมื่อเข้าสู่หน้าเว็บ ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม ตั้งเป้าที่จะทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์ของคุณใช้ไซต์ของคุณได้ง่ายที่สุดและง่ายพอๆ กับเว็บเบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ การนำทางไซต์ของคุณง่ายไหม เลื่อนและคลิกลิงก์ง่ายไหม การเข้าใจการมีส่วนร่วมของผู้ใช้นั้นสำคัญต่อการแสดงอันดับด้วยเช่นกัน
7.ปรับความเร็วเว็บให้เหมาะสม
การแสดงที่เชื่องช้ามากเกินไปนั้นทำให้คนออกจากเว็บไซต์มากขึ้น คุณควรใส่ใจเรื่องความเร็วในกาแสดงผลให้เยอะขึ้น คุณต้องแน่ใจว่า CSS ของคุณเป็นระเบียบเรียบร้อย ควรเป็นข้อมูลล่าสุดและสร้างขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด หรือรูปภาพของคุณมีขนาดที่พอดีช่วยในการโหลดหน้าเพจเร็วขึ้น
8.ใช้ประโยชน์จากการนำทาง Navigation และแผนผังเว็บไซต์
สร้างการนำทางไว้บนสุดเพื่อให้การเชื่อมโยงไปแต่ละหน้าได้อย่างละเอียด และการใช้ข้อความในการสร้างตัวนำทางที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้นจะช่วยให้ผู้ใช้หาได้ง่ายและตรงกับความต้องการอย่าเเท้จริง เช่น เว็บไซต์ช่างประปา ควรเขียนเนื้อหาเชื่อมโยงไว้เช่น
รับบริการติดตั้งท่อน้ำ | บริการตรวจเช็คระบบน้ำ เป็นต้นและอย่าลืมสร้าง ไฟล์ XML ที่บอก Google ว่ามีอะไรภายในเว็บไซต์นั้นบ้าง เมื่อสร้างเรียบร้อยแล้วให้อัพโหลดไฟล์เข้าไปยัง Google search console ตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ SEO ทั่วไป คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผนผังไซต์ของคุณมีการจัดวางอย่างชัดเจน
9.พึ่งพา HTML
การใช้ HTML เข้ามาช่วยแทนที่จะจัดรูปแบบข้อความของคุณบนหน้าที่มีข้อความขนาดใหญ่ขึ้นและเล็กลง คุณใช้แท็กหัวข้อที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ แทนที่จะใช้แท็ก<b> เพื่อระบุข้อความตัวหนา โค้ด HTML รอบข้อความควรระบุว่าข้อความเป็น ซึ่งจะเน้นที่สิ่งที่อยู่ระหว่างแท็กมากกว่า พวกเขาพิจารณา HTML เพื่อดูว่าหน้าเว็บเป็นตัวหนาและตัวเอียงมากน้อยเพียงใด ระบบการจัดการเนื้อหาส่วนใหญ่ทำให้ง่ายต่อการสร้างหน้าโดยใช้ HTML มาช่วย