ไปเที่ยวสังขละบุรี 1 วันก็เที่ยวได้ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการขับรถชมวิว แต่ไม่พักค้างคืนที่นี้ เส้นทางไปเที่ยวสังขละบุรี จะทำให้คุณเดินทางเพลินๆ ชมนกชมไม้ตลอดเส้นทางที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันน่าสดชื่น
อ.สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ โดยประมาณ 5 ชั่วโมง สังขละบุรีห่างจาก อ.เมือง กาญจนบุรีประมาณ 200 กิโลเมตร ดังนั้นก่อนเดินทางวางแผนเรื่องน้ำมัน เสบียงอาหาร และร่างกายนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ แนะนำว่าไปถึงสังขละบุรีช่วงเช้าหรือสายๆ คุณจะได้ลิ้มรสบรรยากาศป่าธรรมชาติได้อย่างเต็มอื่ม
เราแนะนำสถานที่เที่ยวสังขละบุรี จุดสำคัญ
1.ด่านเจดีย์สามองค์
2.วัดวังก์วิเวการาม (หลวงพ่อุตตมะ)
3.สะพานมอญ (ทำจากไม้ยาวที่สุดในประเทศไทยและยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก)

1.ด่านเจดีย์สามองค์นั้นเป็นเขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก
บริเวณนี้เดิมเป็นเพียงก้อนหินวางซ้อนๆ กันสามกอง จึงเรียกที่แห่งนี้ว่าหินสามกองเป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไปก่อนที่จะเดินทางออกเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดนพม่าแต่ครั้งโบราณ
เจ้าเมืองสังขละบุรี ร่วมกับราษฎรก่อสร้างองค์เจดีย์ขึ้นบนหินสามกอง เจดีย์แต่ละองค์สูงประมาณ 6 เมตรและห่างกันประมาณ 5-6 เมตร กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระเจดีย์สามองค์เป็นโบราณสถานของชาติในปี พ.ศ.2498

ในอดีตเป็นช่องทางเส้นทางเดินทัพของพม่า-ไทย ผ่านเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์เมื่อในอดีตนักท่องเที่ยวสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชมตลาดพญาตองซูในเขตพม่า (ตลาดพื้นบ้านของฝั่งพม่า) ปัจจุบันช่วงสถานการณ์โควิด-19 ด่านยังปิดไม่ให้ข้ามไป
ยังมีสะพานรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ชมอยู่ตรงจุดนั้นอีกด้วย สามารถเดินเล่นตลาดพื้นบ้านฝั่งไทยเช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ในครัวครัวรวมไป ต้นไม้พืชพันธ์นานาชนิด ดอกเอื้อง และขนม สรุามากมายให้เลือกซื้อ

กรณีเมื่อด่านเปิด นักท่องเที่ยวติดต่อทำเอกสาร / หลักฐานได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรีการท่องเที่ยวเมื่อข้ามไปยังฝั่งพม่าต้องไปเช้าเย็นกลับ ไม่สามารถพักที่ฝั่งพม่าได้


- เส้นทางไปด่านเจดีย์สามองค์ จากรุงเทพฯ วิ่งไปทางจ.นครปฐม แล้วจากนครปฐมวิ่งเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่ อ.ทองผาภูมิ
ก่อนเข้า อ.ทองผาภูมิ จะมีสามแยก เลี้ยวขวาเข้า อ.สังขละบุรี แล้วก็วิ่งตรงไปจนถึงด่านเจดีย์สามองค์
Map : https://goo.gl/maps/Btou7oxQomair3cw8
2.วัดวังก์วิเวการาม
สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชื้อสายมอญ ก่อนสร้างวัดได้รวบรวมชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ รวมทั้งคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีช่วยกันสร้าง


ปัจจุบันหลวงพ่ออุตตมะได้ละสังขารไปแล้ว (แต่สังขารไม่เน่าและยังเก็บไว้ สังขารของท่านไว้ให้คนทั่วไปเข้ามากราบสักการะบูชา)
ตั้งสังขารไว้ที่ศาลาประดิษฐานสังขารหลวงพ่ออุตตมะบรรจุสังขารของหลวงพ่อไว้ในปราสาทมอญสวยงาม
เปิดให้นักท่องเที่ยวเยียมชมทุกวันระหว่างเวลา 07.30 – 18.30 น.
Map : https://goo.gl/maps/CdfKfaj6WpSTDxU19
3.สะพานมอญ (สะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทยและยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก)
เมื่อขับรถออกจากวัดวังก์วิเวการาม ลงมาเที่ยวต่อตรงสะพานไม้ประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวไทย ชาวมอญ และชาวกะเหรี่ยง

สามารถขับรถเข้าไปจอดใกล้ๆสะพานจะมีทางแยกซ้ายมือก่อนถึงสะพานมอญ (มีจุดรับบริการฝากรถ 20 บาท) สะดวกสบายจอดแล้วลงเดินไปสะพานมอญ แบบใกล้ๆ เมื่อเดินเข้าไปตรงซุ้มประตูเข้าสะพานจะพบบเจอกับร้านค้าของฝากและอาหารเครื่องดื่มไว้คอยต้อนรับนักเท่องเที่ยวผู้มาเยือน
สะพานมอญ (สะพานไม้) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวที่สุดในปะเทศไทย และเป็นอันดับสองรองจากสะพานไม้ในพม่าชื่อสะพานอูเบ็ง ซึ่งสะพานไม้นี้เป็นเอกลักษณ์ของ อ.สังขละบุรีมายาวนาน ทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมสะพานไม้แห่งนี้เป็นจำนวนมากได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้
ระหว่างทางเดินชมสะพานจะมี เด็กชาวมอญคอยต้อนรับบถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว แต่งตัว แต่งหน้าปะแป้งที่หน้าใหกับนักท่องเที่ยว ส่วนค่าบริการก็เเล้วเเต่จะให้เด็กๆ จะเห็นเด็กเอาของวางบนหัว “วัฒนธรรมเทินของบนหัว” ของชาวมอญเลยก็ว่าได้ ส่วนอาหารแนะนำก็มีเมนูขนมจีนหยวกกล้วยที่นักท่องเที่ยวต้องลองไปชิมดู
จุดด้านล่างสะพานจะมีเรือนนำเที่ยวบริการไปชม เมืองบาดาลหรือวัดจมน้ำไว้คอยบริการ *ราคาสามารถติดต่อผู้ขับเรือ ณ จุดบริการ
สำหรับบางคนที่ได้มีโอกาสนอนพักค้างคืนที่นี้กิจกรรมยาวเช้าก็จะมีการใส่บาตรพระทุกเช้า หากนักท่องเที่ยวต้องการใส่บาตร เวลา 06.00 – 07.00 น.
Map : https://goo.gl/maps/uoRmj5DQ6YWJYm5PA